# บาฮา 7 ปี พาร์ท 1 交わる世界、巡り合う刻 - เมื่อโลกที่ตัดข้ามหมุนเวียนมาพบกัน

สรุปเนื้อเรื่องอีเวนท์ของบาฮา 7 ปี พาร์ท 1

WARNING

Post นี้ก็อปมาจาก log ใน discord ที่เคยพิมพ์ไว้

เริ่มมาที่โอนี่จัง(or โอเน่จัง) โดนน้องสาวสองคนมาปลุกที่เตียง บอกจะเที่ยงแล้ว วันนี้สัญญากันไว้ว่าจะออกไปซื้อของด้วยกันแท้ๆแต่เรากลับไม่ตื่น

ระหว่างที่ออกไปซื้อของกับคุยกับน้องสาวเรื่องว่าจะทำอะไรกินกันเย็นนี้ดี เราก็เดินไปชนคนสวมฮู้ดคนนึงเข้า แต่คนนั้นกลับไม่ว่าอะไรแล้วยื่นของยาวๆห่อในผ้าให้ เราก็รับมาแบบงงๆ ซึ่งพอเปิดออกมาแล้วก็เป็นดาบ น้องสาวบอกให้รีบเอาไปคืน แต่มองไปก็ไม่เห็นแล้วว่าหายไปไหน

ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องโวยวายเรื่องสัปประหลาด แล้วสัปประหลาดก็พุ่งเข้าไปในตัวคนแถวนั้น ทำให้คนพวกนั้นอาละวาดแล้วเดินเข้ามาหาเรากับน้องสาว แจนออกมาช่วยแล้วบอกว่าพวกนั้นคือไวส์ เป็นสับประหลาดที่เกิดมาจากในโลกของตน ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกด้านลบของคนพุ่งขึ้นจนควบคุมไม่ได้ ตอนนั้นเองก็มีคนที่คลั่งจะเข้ามาตีอาสึกะ (น้องสาวคนนึง) แจนก็มาขวางไว้จนโดนตีแล้วหมดสติไป พวกเราเลยไม่รู้จะทำยังไงเลยอุ้มกลับมาที่บ้าน

แจนฟื้นมาที่บ้านเรา แล้วก็เล่าให้ฟังว่าตัวเองมาโลกนี้เพราะมาตามหาคนจากมิสทัลเซียที่หลงมาจากเสียงของพระเจ้า แล้วก็จะออกจากบ้านไปแต่พวกเราหยุดไว้ว่าร่างกายแบบนั้นจะทำอะไรได้ แจนบอกไม่เป็นไรแค่แผลนิดหน่อยเดี๋ยวรักษาได้ นี่แค่พลังเวทไม่พอเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวันตั้งแต่มานี่ เรากับน้องสาวเลยบอกให้แจนพักอยู่ที่นี่กับกินข้าว หลังกินข้าวเสร็จ (ตอนกินออกคาราสายแดรก) ก็ใช้เวทรักษาแผลให้เราดู พวกเราก็แปลกใจเล็กน้อยแต่ก็เชื่อเรื่องทั้งหมด


รุ่งขึ้นหลังแจนออกจากบ้านไป เราก็วิ่งตามไปเพราะรู้สึกปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้ (น้องสาวรออยู่บ้าน) แจนบอกว่าไม่อยากให้เรามาเกี่ยวด้วย แต่เราก็ดื้อพร้อมบอกว่างั้นจะนำทางให้ แล้วก็นำทางไปตามเสียงร้องที่มา เจอคนโดนไวส์สิง+ไวส์อาละวาดอยู่ กับลูซิที่ความจำเสื่อมมึนๆงงๆ แจนเข้าไปช่วยแต่ศัตรูจำนวนมากไปจนพลาดท่า เราเอาดาบวิ่งไปช่วยลูซิ ลูซิเห็นเราแล้วบอกว่าเห็นเราที่ขยับตามหัวใจแม้ว่าจะมีพลังหรือไม่ก็ตามแล้ว รู้สึกว่าเป็นตัวตนที่เปราะบางแต่ก็เป็นแสงสว่างที่ทำเห็นแล้วสบายใจ ถ้าเกิดเป็นไปได้ก็เห็นแล้วรู้สึกอยากจะปกป้อง แล้วลูซิก็โอโม่ยบอกว่าแสงสว่างของเราทำให้ความทรงจำกลับมา ก่อนจะจัดการกับไวส์แถวนั้นทิ้ง

แจนพอรู้ว่าเป็นลูซิก็แปลกใจเล็กน้อย เพราะไม่เหมือนกับที่ได้ยินมา แต่บอกว่าเชื่อว่าลูซิเป็นคนที่ไว้ใจได้เพราะที่ช่วยเหลือเรา ก็เลยขอความร่วมมือลูซิให้ช่วยเหลือด้วย ลูซิก็บอกว่าตัวเองจะทำเฉพาะที่ใจต้องการเท่านั้น (แปล: Lucifer has joined your party)

(ระหว่างที่เราออกจากบ้าน น้องสาวสองคนก็สงสัยว่าทำไมมีเรื่องขนาดนี้แต่ทุกอย่างกลับไม่มีข่าว ทั้งทีวีทั้งเน็ตต่างไม่มีพูดถึง)

เราพาแจนกับลูซิกลับมาบ้าน เรากับน้องสาวเสนอให้สองคนพักที่นี่ แต่ลูซิก็บอกว่าไม่อยากให้ต้องมาเดือดร้อน และเกี่ยวข้องกับพวกตนเพราะจะต้องเจอกับอันตรายกับพวกไวส์ แต่พวกเราก็บอกไม่เป็นไรจนสองคนยอม


รุ่งขึ้นก็ออกไปตามหาเช่นเคย ลูซิถามว่ารู้ได้ไงว่าคนไหนมาจากมิสทัลเซีย แจนบอกว่ารู้สึกได้เวลาเห็น น่าจะเป็นจากเทพบอกมา ระหว่างที่คุยกันก็เจอคนสวมฮู้ด พวกเราเลยไล่ตามไปจนถึงหน้าฮาจิโกะ แจนเจอลูเซียสวิ่งชน ลูเซียสขอโทษก่อนรีบวิ่งไปสถานีไปขึ้นรถไฟ ตอนที่ชนกันแจนแว้บนึงขึ้นมาว่าลูเซียสเป็นคนจากมิสทัลเซีย เราเลยพาแจนขึ้นรถไฟตามลูเซียสไป

หลังจากตามไปก็ไปเจอลูเซียสซ้อมเตรียมสัมภาษณ์งานอยู่ พวกเราเข้าไปคุยแล้วอธิบายเรื่องมิสทัลเซียให้ ลูเซียสแนะนำตัวเองว่าชื่อรูชิโระ ลูเซียสกลับเข้าใจนึกว่าพวกเราก็เป็นคนกำลังหางานเหมือนกัน แล้วมิสทัลเซียเป็นเรื่องที่จะพูดให้มีอิมแพคเวลาสำภาษณ์ พวกเราก็มึนกันไปเพราะไม่นึกว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ลูซิก็บอกให้ดูลาดเลากันไปก่อนเพราะดูสภาพลูเซียสแล้วแปลกมาก ไม่เหมือนตัวเองที่ลืมทุกอย่าง แต่ลูเซียสนั้นกลับเหมือนว่าเป็นคนของโลกนี้แต่ดั้งเดิม ลูเซียสคุยกับพวกเราเรื่องจะหางาน แล้วก็บอกว่าน้องสาวแนะนำเอเจนท์ช่วยจัดหางานฝีมือดีมาให้ตัวเองที่คอยช่วยเหลือเรื่องหางาน แล้วก็จากนี้กำลังจะไปหา

ระหว่างที่คุยกัน เอเจนท์คนที่ว่านั่นก็มาหาเราพอดี ซึ่งก็คือเอมิเลีย เอมิเลียแนะนำตัวว่าชื่อเอมิริ แจนกับลูซิคุยกับเราว่าเป็นคนจากมิสทัลเซียแต่ก็เหมือนกับลูเซียสเลย ลูเซียสบอกเอมิเลียว่าพวกเราก็กำลังหางานอยู่ เอมิเลียก็เลยจะช่วยพวกเราด้วย แต่ว่าไว้หลังจากจัดการคิวลูเซียสเรียบร้อยก่อน แล้วลูเซียสก็ไปสัมภาษณ์งานต่อ

พวกเราคุยกับเอมิเลีย เอมิเลียบอกว่าลูเซียสจริงๆเป็นคนที่มีความสามารถ แต่ชอบทำให้คนเข้าใจผิด ช่วงทำไบต์ที่เกี่ยวข้องกับซีเคียวริตี้นี้ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก เลยแนะนำงานเกี่ยวกับโฮมซีเคียวริตี้ไป พวกเราเห็นลูเซียสกลับมา ห่อเหี่ยว บอกว่าโดนคนสัมภาษณ์บอกว่ารับรู้ถึงแพชชั่นในการหางาน แต่เอาไปกับงานอื่นจะดีกว่า คุยไปคุยมาถึงรู้ว่าลูเซียสนั้นไปฝึกพิมพ์เร็วมาก่อนมาสัมภาษณ์ เอมิเลียก็งงว่าฝึกไปเพื่ออะไร สรุปว่าที่ลูเซียสไปสมัครนั้นไม่ใช่งานด้านซีเคียวริตี้(การ์ด) แต่เป็นด้านซีเคียวริตี้ (IT)

หลังจากไปสัมภาษณ์อีกหลายที ลูเซียสก็ร่วงหมดจนเริ่มท้อ ทีน่า(แนะนำตัวว่าคือชีนะ)กับแม่ทั้งสองคนก็มา บอกว่าไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆไปก็ได้ ที่บ้านไม่ได้ยากจนอะไร ลูซิเห็นแม่ก็ถามว่าเป็นอะไรกันแน่และแจนก็บอกให้ทุกคนถอยออกมาแม่ ซึ่งตอนนั้นคำที่โดนไวส์สิงก็อาละวาดพอดี หลังจากจัดการเสร็จแจนก็บอกว่าแม่นั้นไม่ใช่แม่จริงๆของทั้งคู่ แล้วก็ไม่ใช่คนธรรมดาด้วย สองคน + เอมิเลียได้ยินนั้นอยู่ๆก็รู้สึกปวดหัว

แม่ก็เลยบอกว่าถึงจะบอกงั้นทันทียังไงก็ทำให้สับสนเปล่าๆ และต่อให้เป็นงั้นจริง มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเผยความจริงนี้ ก่อนเผยออร่าไวส์สิงร่างให้เห็น ลูเซียสกับทีน่าเริ่มจะโอโม่ย แต่ก็ปฏิเสธสิ่งนั้น แม่ก็บอกว่าตอนนี้ทุกคนกำลังมีความสุข มีความครัวที่อบอุ่น และบ้านที่ให้กลับที่เต็มด้วยรอยยิ้ม และขอให้อย่าแย่งชิงสิ่งเหล่านั้นไปจากเด็กพวกนี้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะจากไป เอมิเลียที่ยังมึนๆอยู่ก็ขอตัวกลับก่อน บอกว่าไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกัน แต่เข้าใจว่าเราเป็นห่วงสองคนนั้น และก็บอกว่าไว้เจอกันใหม่ แจนที่ได้ยินคำพูดของแม่ก็เริ่มสับสนว่าที่ตัวเองทำนั้นถูกต้องรึเปล่า

เย็นวันนั้นน้องสาวเมลมาบอกว่าจะทำอาหารเลี้ยงต้อนรับแจนกับลูซิ แล้วให้เราไปซื้อของเพิ่มให้ แจนที่กำลังสับสนหลังจากเห็นลูซิกับเอมิเลียที่กำลังมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่นี่ว่าการที่จะดึงกลับมิสทัลเซียนั้นเป็นเรื่องที่ถูกแล้วหรอ แล้วก็บอกเราว่าเดี๋ยวขอกลับคนเดียวเพื่อปรับอารมณ์ ส่วนลูซินั้นไม่รู้หายไปไหน แจนเลยเดาว่าอาจจะไปจัดการพวกไวส์แถวนี้ เราเลยแยกกับแจนแล้วไปซื้อของตามที่น้องสาวขอมา

หลังซื้อของเสร็จก็เจอกับคนโดนไวส์สิงเข้ามาตีเรา แต่มีชายหนุ่มคนนึงช่วยเราอีกแรง หลังจัดการเสร็จก็คุยกันเล็กน้อย ชายคนนั้นก็ดูสนใจเรา หลังเห็นของที่เราซื้อก็ถามว่าเราเป็นพวกกินเยอะงั้นหรอ แต่เราบอกว่ามีครอบครัวด้วย ชายคนนั้นก็เลยเข้าใจนารุโฮโด แล้วก็บอกให้เราระวังตัวยิ่งถ้ามีครอบครัวด้วย เพราะหลังๆมาแถวนี้มีเรื่องเยอะ พอชายหนุ่มกำลังจะแยกตัวไปก็มองเห็นซาลารี่มังที่โดนไวส์สิงอยู่ เลยเปลี่ยนใจแล้วทะท่าลนๆจะพาเราไปส่งที่บ้าน

เรากับชายหนุ่มเดินจนมาถึงแถวบ้าน ระหว่างนั้นก็มีคุยกันเรื่อยเปื่อยเรื่องน้องสาว ชายหนุ่มก็บอกก็เข้าใจเพราะตัวเองก็มีคล้ายๆงั้นเหมือนกัน และบอกว่าเราสองคนคล้ายๆกันอยู่ ไม่ได้คุยกับคนแล้วรู้สึกสนุกอย่างนี้มานานแล้วก่อนที่จะบอกว่าตัวเองชื่อมิคาโดแล้วถามชื่อเรา หลังจากบอกเสร็จมิคาโดกำลังจะบอกลาพร้อมบอกว่าตัวเองมีธุระต้องทำ

แต่แล้วก็มีชายแว่นดำสูทดำสองสามคนเดินเข้ามาขัดการสนทนาต่อ พร้อมบอกมิคาโดซามะถามว่าเราเป็นใครไม่คุ้นหน้าเลย มิคาโดก็บอกไปว่าเหมือนเป็นเพื่อน แต่ SP เหมือนไม่พอใจกับคำตอบ พร้อมกับพูดเหมือนว่ามิคาโดนั้นเป็นอะไรซักอย่างแต่โดนมิคาโดสั่งให้เงียบไปก่อน SPมาเพื่อแจ้งว่าชายคนนั้นติดต่อมาแล้ว มิคาโดก็รับรู้แล้วบอกให้SPไปได้แล้ว ก่อนจะบอกลาเราพร้อมโยนนามบัตรมาให้ บอกว่าถ้าลำบากให้ใช้ไอ้นั่นอาจจะช่วยได้ แจนวิ่งออกมาตามเราเพราะเรามาช้า บอกว่าอาสึกะกับชิโอริเป็นห่วง พอเรากันกลับไปก็ไม่เห็นทั้งมิคาโดและ SP แล้ว

ที่มุมมืด มิคาโดคุยกับโลกิ โลกิมารายงานว่า progress กำลังไปได้สวย คนและสิ่งของจากมิสทัลเซียค่อยๆไหลมาฝั่งนี้เพิ่มขึ้น ที่ไวส์หลังๆมันแอคทีฟก็เป็นหลักฐานที่ดีอย่างนึง โลกิอธิบายต่อว่าไวส์เป็นเหตุที่ทำให้โลกทั้งสองค่อยๆกลืนกินกัน โดยใช้ “ความต้องการ” ของคนจากโลกนี้และคนจากมิสทัลเซียที่ไหลมาทางนี้เป็นอาหารเพื่อเพิ่มปริมาณมันให้ ซึ่งจนพลังของไวส์ไปถึงอีกระดับนึงแล้ว มิสทัลเซียก็จะยิ่งเข้าใกล้ ซึ่งปลายทางนั้นต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งมวลที่มิคาโดต้องการ “การกลืนกิน” ก็จะลืมตาตื่นขึ้น มิคาโดไล่โลกิไปทำงานต่อเพราะบอกว่าถึงจะไปด้วยดีแต่หน้าที่เร่งให้มันไวขึ้นเป็นของโลกิไม่ใช่หรอ แล้วตัวเองก็จะไปคอยล่าไวส์ที่อยู่ตามเมือง เพื่อเอาพลังเวทแห่ง”การกลืนกิน”จากไวส์มาเพื่อให้แผนของโลกิเดินหน้าต่อ

ตัดมาที่บ้าน แจนนั่งเย็บผ้ากับพวกน้องสาวเรา ระหว่างนั้นลูซิกับเราก็ออกไปข้างนอกฝึกต่อสู้ ลูซิบอกว่าสำหรับคนธรรมดาแล้วก็ถือว่าให้ผ่านได้ แจนกับน้องสาวที่แอบดูเห็นเรากับลูซิเลิกแล้วกลับก็ลนๆ แจนจากที่คลุกคลีกับเราและน้องสาวก็ตั้งจิตได้ว่าจะพาพวกลูเซียสกลับ เพราะถึงจะไม่รู้ว่าอดีตเป็นยังไง แต่ที่มิสทัลเซียก็มีผู้คนและเซคัตสึพวกเขาอยู่


รุ่งขึ้นเป็นวันหยุด เอมิเลียกับพ่อเดินเล่นในสวนสาธารณะ แต่เอมิเลียกับลังสับสนเรื่องเมื่อวาน และกำลังจะโอโม่ยจนกระทั่งไวส์ออกอาละวาด พ่อเอมิเลียก็มีออร่าไวส์ออกมาให้เห็น พวกเรารีบไปช่วยเอมิเลีย ตัวเอกที่รู้สึกต้องการจะช่วยเอมิเลียพอคิดงั้นแล้วอยู่ๆข้างหน้าก็มีชายใส่ฮู้ดโผล่มาพร้อมกับดาบเล่มบางสีฟ้า พร้อมกับส่งดาบนั้นให้เรา

เราวิ่งเอาดาบนั้นไปให้เอมิเลีย แต่พ่อนั้นขวางว่าอย่าแย่งชิงความสุขไป แต่เอมิเลียหลังจากได้ดาบแล้วก็โอโม่ย พร้อมกับจัดการพวกไวส์แถวนั้น จากนั้นพวกเราก็วิ่งไปช่วยพวกลูเซียสต่อ ทีน่าโดนไวส์ในตัวแม่กลืนเข้าไป เราฟาดก้นลูเซียส ลูเซียสเกิดอาการโอโม่ยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะส่งเอาดาบจากเอมิเลียให้ลูเซียสใช้สู้ พอได้สู้แล้วลูเซียสก็เลยโอโม่ยขึ้นมาแล้วก็จัดการไวส์แถวนั้น ทีน่าที่ออกมาจากโดนกลืนก็โอโม่ยด้วยเช่นกัน

หลังจัดการพวกไวส์เสร็จ โลกิก็โผล่มา บอกว่าสนุกกับดูคาโซคุก๊กโกะของพวกเรา แถมยังทำให้พวกไวส์เติบโตขึ้นด้วย ทำให้ดูดพลังเวทมาได้ดี แต่ก็บอกว่าจะยังไม่บอกเราตอนนี้ แล้วก็เสียดายที่ต้องไปหาคนที่มีความต้องการสูงใหม่แทนเพราะพวกเราโอโม่ยหมด โอดีนใช้ร่างของแจนฟาดโลกิ และคุยด้วยเล็กน้อยก่อนที่โลกิจะแว้บหนีไป หลังโลกิแว้บหนีไป ลูซิแยกตัวไปเพื่อสืบอะไรบางอย่าง ส่วนพวกทีน่านั้นก็บอกจะให้ความร่วมมือกับเรา แต่ว่าทั้งหมดจะไปบ้านเราหมดก็ยังไงอยู่ กับมีครอบครัวที่นี่อยู่ถึงแม้จะเป็นของปลอมจากไวส์ก็ตาม จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกัน

พอมาถึงสถานีกำลังจะกลับบ้าน เจอคนใส่สูทแจกทิชชู่แปลกๆกัน 3 คน (แก๊งค์กรีมนีล) ด้วยความประหลาดของสามคนเลยโดนพวกเรานึกว่าเป็นฟุชินฉะซังเลยหนี แต่กรีมนีลก็วิ่งตัดหน้ามาแล้วแจกทิชชู่พร้อมกับบอกให้พวกเราแวะไปที่ร้านกันบ้าง

พอกลับบ้านมาก็คุยกันเรื่องอาหาร แจนอยากลองกินโน่นนี่หลายอย่าง เราบอกจะพาไปน้องสาวก็ไม่ยอมแล้วบอกว่าถ้าจะไปกินข้างนอกกันให้บอกด้วย เพราะน้องสาวก็อยากไปกินกับเราด้วย


วันรุ่งขึ้นหลังเรากับแจนกลับมามือเปล่า น้องสาวก็ชวนเราไปดูไอดอลไลฟ์ ก็เลยไปอากิบะกันเพื่อไปดูไลฟ์ของโซลอิลูมิเนท ที่ชิโอริเป็นแฟนอยู่ พอไปดูก็พบว่าเป็นเคล คารอน ออลโทรอส พอจบไลฟ์พวกเราก็ไปต่อแถวบุปปัง และก็พบว่าทั้งสามคนจำอะไรไม่ได้ พอกำลังจะไปนั้นก็เจอคนที่โดนไวส์สิงเข้ารุมออลโทรอสเลยไปช่วย (ระหว่างนั้นลูซิก็สืบไปจนถึงโลกิ และคุยกับโลกิเล็กน้อย)

หลังจากช่วยเสร็จจึงรู้ว่าออลโทรอสกำลังจะไปเอาของสำคัญให้กับเคลที่ลืมไว้ พวกเราเลยอาสาไปด้วย (ชิโอริแทบสลบตามติ่งสไตล์) ช่วงที่ออลโทรอสเข้าไปเอาของในตึก พวกเราก็รีบจัดการไวส์ก่อนที่จะเสร็จ แต่ว่าออลโทรอสดันเสร็จแล้วเลยเจอไวส์ด้วยพอดี จากการสู้กับพวกไวส์ของเรากับคำพูดของตัวเอก ทำให้ออลโทรอสโอโม่ย และช่วยจัดการพวกไวส์ทิ้ง

ของที่ออลไปเอามาคือตุ๊กตามือ (โคโค่มิมิ) ซึ่งไม่ขยับเลยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเคลที่เคลลืมทุกอย่างไป หลังจากนั้นออลก็แลกเมลกับชิโอริเพื่อเผื่อจะติดต่อกับพวกเรา บวกกับหาทางให้อีกสองคนโอโม่ย ระหว่างจะกลับก็เจอพวกไวส์มาล้อมอีก แต่หนนี้มิคาโดบังเอิญ(?)ผ่านมาพอดีและก็ช่วยพวกเราเอาไว้ มีคุยเล็กน้อยว่านั่นครอบครัวเราหรอ ก่อนที่จะจากไปแล้วบอกว่า ดูท่าอาจจะได้เจอกันอีก

หลังจากคุยกับชิโอริกันทางเมลคืนนั้น วันรุ่งขึ้นออลโทรอสส่งเมลมา บอกว่าได้ยินว่าอาสึกะทำอาหารเก่ง เลยอยากจะมาหาเราที่บ้านกับเคล (วันนั้นมีไลฟ์ตอนเย็น) สองคนมาบอกว่าเคลอยากจะทำคุกกี้ แล้วออลบอกว่ามีคนรู้จักที่เก่งเรื่องพวกนี้อยู่ ที่จะทำคุกกี้เพราะอยากทำเป็นของตอบแทนให้กับคารอนที่คอยดูแลมาเสมอ

ไลฟ์คืนนั้น เคลที่อยากจะแสดงคำขอบคุณ เลยพยายามเพิ่มระดับเพอร์ฟอแมนซ์ไปจากการแอดลิบ แต่ว่าออลโทรอสตามไม่ไหว เลยก้าวพลาดและล้มไป คารอนมาดุเคลทำให้เคลไม่พอใจแล้วก็หนีไป(บอกว่าจะไม่ไลฟ์แล้ว) แฟนๆเริ่มคลั่งเพราะนึกว่าโซลอิลูมิเนทจะวงแตกบวกโดนไวส์สิง พวกเราเลยรีบจัดการพวกไวส์

หลังจากจัดการพวกไวส์อยู่ คารอนออกมาเจอเรา เราเลยเอาคุกกี้ที่เคลฝากไว้ให้กับคารอน พร้อมกับเผยความในใจเคล คารอนพอรับคุกกี้และได้กินคุกกี้ไป ก็โอโม่ยเรื่องสมัยก่อนขึ้นมา จนโอโม่ยทั้งหมดขึ้นมาได้ พวกเราตามไปหาเคลพร้อมจะเอาโคโค่มิมิให้ แต่เคลปฏิเสธไม่ยอม เพราะรู้สึกว่าถ้ารับมาทุกสิ่งตอนนี้จะพังทลายไปหมดแล้วต้องกลับไปทำงานที่ยุ่งยาก เคลเลยหนีไปอีกที พวกเราก็ไล่ตามไปแต่ไปเจอพวกไวส์รุม มีแฟนที่โดนไวส์สิงคนนึงหลุดมาจะโจมตีเคล แต่เราเข้าไปขวางไว้

เคลประหลาดใจว่าทำไมถึงเราเข้ามาช่วยทั้งๆที่ไม่มีพลังอะไร แต่ก็บอกว่าได้รับแรงเชียร์จากแฟนแบบเราแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน และรู้สึกประหลาดใจที่พอมองเราแล้วก็คิดได้ว่าจะทั้งไอดอลหรืองานนั้นก็มีทั้งเรื่องสนุกและทั้งยุ่งยาก และก็ยอมมาช่วยเราพร้อมกับรับโคโค่มิมิกลับไป จนในที่สุดเคลก็โอโม่ยและช่วยเราจัดการไวส์แถวนั้น

หลังเก็บกวาดเรียบร้อย เราก็แยกกับพวกเคล พวกเคลจะให้ความร่วมมือกับเราเรื่องตามหาคนจากมิสตัลเซีย แต่ก็จะยังคงเป็นไอดอลต่อ คืนนั้นเรากลับมาที่บ้าน น้องสาวบอกให้เราถอดเสื้อเอาชุดที่เยินมาเย็บซ่อม ส่วนอีกมุมหนึ่งของตึก พวกกรีมนีลสามคนก็ยืนมองพร้อมกับบ่นว่าเวลานั้นมาถึงแล้ว ทั้งๆที่จริงๆแล้วอยากจะจัดการหยุดให้ได้ก่อนมันสายเกินไป

# ผังตัวละคร

ตบมาจากเว็บอฟช

chara